บทที่ 2 แผนร้าย
ในขณะที่รถเคลื่อนตัว ในหัวของชายหนุ่ม ก็คิดไปต่าง ๆ นานา หลายครั้งที่ดวงตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นตาสีดำเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวของนายหญิง มีหลายส่วนบนใบหน้าที่คล้ายกัน แต่นายหญิงสวยกว่า ในขณะที่ คนน้องดูจืดชืดไปนิด แต่ก็พอไปวัดไปวาได้
เธอคนนี้น่ะหรือ... ที่กล้าปฏิเสธคุณเผ่าของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ขนาดรวยล้นฟ้าอย่างพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร เธอยังกล้าปฏิเสธ ถ้าเป็นเด็กกำพร้าอย่างเขา คงถูกมองไม่ต่างจากไส้เดือนกิ้งกือแน่นอน
“อีกนานไหมคะกว่าจะถึงไร่แสงตะวัน” ถามด้วยความอยากรู้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอไปไร่แสงตะวัน ครั้งหนึ่งเธอเคยมาเชียงราย แต่นั่นมันก็นานมากแล้ว และก็ไม่ได้ไปที่ไร่แสงตะวัน เพราะเผ่าเพชรรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ใบหน้าพ่อแม่และพี่สาวลอยเข้ามาในหัว จะเป็นไงนะถ้าพวกท่านเห็นเธอวันนี้
“อีกพักใหญ่ ๆ ฝนตกหนักถนนลื่น ขับเร็วไม่ได้”
ลันลดาพยักหน้าเข้าใจ เมื่อคนขับรถตอบมาแบบนี้
“ทำไมไม่ให้รถที่ไร่มารับ”
อาคมถามกลับ อันที่จริงเรื่องที่เธอนั่งรถทัวร์มาเชียงราย เขาก็ไม่รู้มาก่อน แต่บังเอิญว่าลูกน้องเขาดันตาดีเห็นเธอเข้า จึงมารายงานให้เขาทราบ ลูกน้องเขาคงจำหน้าเธอได้ คงเคยเห็นรูปเธอตอนที่เขาติดต่อกับคุณประกรเมื่อหลายเดือนก่อนนั่นเอง
“หนูจะทำเซอร์ไพรส์คนที่นั่นน่ะพี่ค่ะ เอาให้ช็อกกันไปเลย”
ลันลดาหันมาตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง รู้สึกภูมิใจกับการกระทำของตัวเอง
“มีญาติอยู่นั่นเหรอ ดูแล้วเราไม่ใช่คนที่นี่นะ” อาคมยังคงถามต่อ
“พี่ฟังแล้วจะอึ้ง พี่เชื่อไหมว่าหนูน่ะคือเจ้าของไร่แสงตะวัน ตัวจริง”
เอี๊ยด!!
สิ้นเสียงอวดอ้าง เท้าหนาก็กระทืบลงไปบนเบรกเต็มแรง ถึงแม้รถจะขับมาไม่เร็วนัก แต่ก็ทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ หัวคะมำ ดีที่คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงเจ็บมากกว่านี้
ลันลดาตกใจที่อยู่ ๆ รถก็เบรกกะทันหัน ผิดกับอาคมที่อยู่ ๆ ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา พูดแบบนี้หมายความว่าไง อย่าบอกนะว่ายายนี่จะมาเรียกร้องสิทธิ์ที่เคยเป็นของตัวเอง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงยอมไม่ได้ นายหญิงจะเสียใจแค่ไหน กำลังท้องอยู่ด้วย พ่อแม่ก็ยิ่งรักลูกลำเอียงอยู่ ถ้าเกิดนายหญิงเสียใจแล้วหนีไปอีก คุณเผ่าจะเป็นยังไง ยิ่งคิดยิ่งโมโห มือแกร่งเผลอกำพวงมาลัยจนเส้นเลือดปูดโปน
“พี่คะ... เป็นอะไรหรือเปล่า”
คำถามที่ลอยมาเข้าหูทำให้อาคมได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาพยายามปรับให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะตอบคำถามของเธอ
“โทษที ตัวแรด! มันวิ่งตัดหน้าน่ะ เลยเหยียบเบรกแรงไปหน่อย เป็นอะไรไหม”
“อ้อ... ไม่เป็นไรค่ะ เราชนมันหรือเปล่า” ถึงแม้จะตะขิดตะขวงใจ แต่ลันลดาก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน บางทีตัวที่เขาว่าอาจจะวิ่งตัดหน้าจริง ๆ เธออาจจะมองไม่เห็นก็ได้
“ไม่ชน โชคดีที่เบรกทัน ว่าแต่เมื่อกี้เราจะพูดอะไรนะ” อาคมถามต่อ เมื่อปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
“อ้อ... คือหนูจะบอกว่า...”
ครืด ๆ ๆ ๆ
คำพูดของลันลดาค้างไว้แค่นั้นเมื่อมือถือของคนที่นั่งข้าง ๆ สั่นขึ้นขัดจังหวะ อาคมหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะวางลงที่เก่าเมื่อเห็นเบอร์ปลายสาย เผ่าเพชรคงจะถามเรื่องที่ประชุมวันนี้ อันที่จริงเขาส่งอีเมลสรุปการประชุมไปให้แล้ว สงสัยเจ้านายยังไม่ได้เปิดดู การสนทนาต้องจบลงเมื่อฝนเทกระหน่ำลงมาอีกและครั้งนี้ก็หนาเม็ดจนมองแทบ ไม่เห็นทาง
“ต้องหาที่จอดก่อน ไปต่อไม่ได้ ถนนลื่น ถ้าไปต่อกลัวจะเกิดอันตราย” อาคมหันมาบอกผู้โดยสารที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้าง ๆ เขาเป็นคนพื้นที่และชินทางก็จริง แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง
ลันลดาไม่พูดอะไร ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้วกลับซีดลงไปอีก เมื่อได้ยินคำว่าไปต่อไม่ได้ ต้องรอให้ฝนหยุดก่อน แขนเรียวพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู รู้สึกโล่งใจเพราะตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงเย็น ยังไม่มืดก็ยังมีเวลา
“ที่นี่ก็แบบนี้ ฝนตกเกือบทุกวัน” เสียงแหบห้าวบอก เมื่อเห็นเธอเอาแต่มองไปที่หน้ารถ
“ฝนตกทุกวันแบบนี้ คนที่นี่คงทำมาหากินลำบากนะคะ”
ลันลดาตอบกลับ เมื่อชายหนุ่มชวนคุย
“ไม่หรอก เขาชินกันแล้ว มันเป็นช่วง ๆ น่ะ เขาก็ต้องปรับตัว ว่าแต่เราจะไปที่แสงตะวันทำไมนะ” อาคมวกกลับมาที่เรื่องเดิม เพราะยังไม่ได้คำตอบจากเธอ
“ไปหาพ่อแม่แล้วก็พี่สาวค่ะ พี่สาวหนูได้สามีอยู่ที่นั่น”
“อายุเท่าไรแล้วเราน่ะ” อาคมถาม เพราะเริ่มสะดุดหูกับคำว่าหนูของเธอ
“ปีนี้ก็ย่างยี่สิบสองแล้วค่ะ”
“เรียนหรือทำงาน”
“เรียนค่ะแต่จบแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงพักผ่อน หนูรอไปเรียนต่อปริญญาโท” หญิงสาวตอบอย่างภาคภูมิใจ เมื่อนึกถึงความสำเร็จของตัวเอง
“อืม” อาคมรับคำสั้น ๆ ยายนี่อายุยี่สิบสอง... เท่ากับว่าเด็กกว่าเขาเจ็ดปี เพราะปีนี้เขาย่างยี่สิบเก้าแล้ว
“ที่คุยค้างไว้ เราบอกว่าเป็นเจ้าของไร่แสงตะวัน ยังไงเหรอ”
“อ้อ... คือจริง ๆ แล้วหนูเป็นคู่หมั้นของคุณเผ่าเพชร เจ้าของไร่น่ะค่ะ แต่พ่อกับแม่เห็นว่าหนูยังเด็ก เลยส่งพี่สาวมาแต่งงานแทน ฟังดูเหมือนนิยายไหมคะ แต่ก็เรื่องจริงแหละ ถ้าหนูรู้สักนิดว่าพ่อเลี้ยงเผ่าเพชรรวยขนาดนี้ หนูมาแต่งเองแล้ว” ลันลดาพูดไปเรื่อย แต่ท้ายประโยคเธอตั้งใจพูดเล่นเสียมากกว่า
หญิงสาวไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่นั่งข้าง ๆ คิดตามคำพูดเธอทุกคำ กรามแกร่งบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่ตาเห็น เพราะในใจของเธอก็ยังหวังที่จะได้เป็นเจ้าของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ไม่อย่างนั้นคงไม่มาคุยหรอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของแสงตะวันตัวจริง
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ขับรถฝ่าสายฝนออกไป เขาจะปล่อยให้เธอไปถึงไร่แสงตะวันไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะพ่อเลี้ยงกับนายหญิงกำลังมีความสุข ไหนจะนายน้อยที่อยู่ในท้องอีก คงไม่ดีแน่ถ้ายายนี่จะโผล่ไป ถึงเธอจะทำเหมือนไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนั้นแล้ว แต่ครอบครัวนี้ไม่ปกติ พ่อแม่รักลูกลำเอียงจนน่าเกลียด เกิดยายบ้านี่ร้องอยากได้คุณเผ่าขึ้นมา แล้วพ่อแม่บ้าจี้ตาม นายหญิงคงต้องเสียใจอีกแน่นอน
รถทั้งคันเงียบสนิท เมื่อคนขับต้องใช้สมาธิในการขับ ใบหน้าสวยหันไปมองซีกหน้าคมคาย ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้เขา เมื่อคิดว่าเขากำลังทำเพื่อเธอ รีบขับฝ่าสายฝนเพื่อที่เธอจะได้ไปถึงไร่แสงตะวัน เร็ว ๆ
‘พี่ปอขา ป่านคิดถึงพี่ปอ ป่านมีเรื่องจะคุยกับพี่ปอตั้งหลายเรื่อง ป่านอยากจะบอกพี่ปอว่าป่านรักพี่ปอที่สุดเลย’
คำพูดเหล่านี้ถูกคิดวนไปมาในหัว เมื่อลันลดากำลังหาคำพูดที่ดีที่สุดไปบอกกับพี่สาว เธออยากขอบคุณลลนาที่เสียสละมาแต่งงานแทนเธอ





























































































